ภาวะพร่องออกซิเจน & ออกซิเจนบำบัด
- piennon
- May 7
- 1 min read

สภาวะฝุ่นพิษหรือฝุ่นละอองที่มีค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานที่กำหนด อาจเกิดภาวะพร่องออกซิเจน ซึ่งเกิดจากการได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เม็ดเลือดแดงอาจไม่สามารถนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เพียงพอ ส่งผลให้สมองและอวัยวะส่วนอื่นขาดออกซิเจน....
โดยปกติแล้ว อากาศที่เราหายใจเข้าไปนั้น ไม่ได้มีแค่ออกซิเจนเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบด้วยไนโตรเจน ประมาณ 79% และ ออกซิเจน ประมาณ 21% รวมทั้งฝุ่นละอองที่ไม่พึงปรารถนา แต่ทุกวันนี้ สภาวะฝุ่นพิษหรือฝุ่นละอองที่มีค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานที่กำหนด ปกคลุมทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัดบางพื้นที่ จึงควรงดสูดออกซิเจนในอากาศกลางทีสาธารณะ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง pm 2.5 ที่อาจก่อให้เกิดขึ้นต่อร่างกาย แล้วเราจะขาดออกซิเจนไหม ถ้าอยู่แต่ในห้อง ซึ่งสภาพอากาศที่เหมาะสม ที่คนเราสามารถอยู่ได้อย่างสบายจะต้องมีออกซิเจนอยู่ประมาณ 19.5-23.5% ปกติก็เพียงพอสำหรับออกซิเจนในร่างกาย แต่เราก็สามารถวัดค่าออกซิเจนในร่างกายเราได้เช่นกันว่ามีเพียงพอต่อสุขภาพไหม ? หรือที่เราเรียกกันว่า "ภาวะพร่องออกซิเจน"

ภาวะพร่องออกซิเจน เกิดจากอะไร
ภาวะพร่องออกซิเจน มักเกิดจากการขึ้นไปอยู่ในที่สูง เช่น บนยอดเขา การขึ้นบินบนเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งความกดบรรยากาศลดลง มีออกซิเจนเบาบาง ดังนั้นเมื่อหายใจเข้าไปในแต่ละครั้งจะได้รับออกซิเจนน้อยกว่าเมื่ออยู่ที่ระดับพื้นดิน ภาวะพร่องออกซิเจน ซึ่งเกิดจากการได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เม็ดเลือดแดงอาจไม่สามารถนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เพียงพอ ส่งผลให้สมองและอวัยวะส่วนอื่นขาดออกซิเจนได้ ส่งผลให้การทำงานของร่างกายและสมองบกพร่อง การตรวจวัดออกซิเจนเพื่อหาความสมบูรณ์ของการหายใจ ลดการเกิดภาวะพร่องออกซิเจนนนที่สูง หรือ การโดยสารเครื่องบิน มีส่วนช่วยให้เราปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจนได้แแล้ว ยังสามารถจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือระหว่างการเดินทางได้อย่างเหมาะสม

ออกซิเจนบำบัด (Oxygen Therapy)
ออกซิเจนบำบัด (Oxygen Therapy) เป็นวิธีที่ใช้ เพิ่มปริมาณออกซิเจนในปอด และกระแสเลือด ใช้สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบว่า ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือ มีภาวะขาดออกซิเจน (Hypoxemia) เช่น ผู้ป่วยโรคปอดบวมโรคมะเร็งปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน รวมถึงผู้ป่วยโรคโควิด-19 ออกซิเจนบำบัดยังเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ประสบภาวะระดับออกซิเจนต่ำ พบเจอกับฝุ่น pm 2.5 เป็นเวลานาน ในรายที่มีความจำเป็นต้องใช้ ออกซิเจนบำบัดจะช่วยลดอาการที่เกิดจากการขาดออกซิเจน และ ช่วยให้บุคคลเหล่านั้นทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น นอกจากนั้น การได้รับออกซิเจนเสริม ช่วยให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ ยังช่วยยืดอายุขัยให้ผู้ป่วยจำนวนมาก ช่วยลดอาการที่มาจากภาวะพร่องออกซิเจน เช่น ปวดศีรษะ อ่อนล้า หายใจตื้น หงุดหงิด กระวนกระวาย ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาเด็กที่มีภาวะทางปอดเรื้อรัง ปัจจุบันผู้ป่วยสามารถใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนบำบัดได้ทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน

วิธีการตรวจปริมาณออกซิเจนในเลือด
การวัดค่าออกซิเจนในเลือดเรียกว่าระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ในทางการแพทย์ อาจเรียกว่า O2 sat (SpO2) โดยแพทย์ตรวจปริมาณออกซิเจนในหลอดเลือดแดง วัดชีพจร เพื่อพิจารณาว่าผู้ป่วยมีระดับของออกซิเจนในเลือดต่ํา ควรได้รับประโยชน์จากการบำบัดรักษาด้วยออกซิเจนหรือไม่ รวมไปถึงการใช้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว อัตราการเต้นของหัวใจและวัดชีพจร ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยวัดระดับของออกซิเจนในเลือดได้ ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) อยู่ที่ 96-99% เป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุดต่อร่างกาย แต่ถ้าหากค่าที่วัดได้ น้อยกว่าก็มีแนวโน้มที่จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจน ซึ่งควรพบแพทย์เพื่อตรวจดูสุขภาพอย่างละเอียด ด้วยการวัดระดับออกซิเจนในเลือด โดยระดับของออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงปกติจะอยู่ระหว่าง 75-100 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งหากพบว่ามีระดับออกซิเจนในเลือดเท่ากับ 60 มิลลิเมตรปรอท หรือน้อยกว่า แสดงว่าบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมหรือออกซิเจนบำบัด

การรักษา ภาวะพร่องออกซิเจน
เมื่อเกิดภาวะพร่องออกซิเจนนี้ขึ้นต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยแพทย์จะรักษาด้วยการวัด อัตราการเต้นของหัวใจ วัดชีพจร แล้วให้ออกซิเจนผ่านทางหน้ากาก หรือสายทางจมูก เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ป้องกันไม่ให้เซลล์และอวัยวะสำคัญถูกทำลาย ทั้งนี้จะเป็นการให้ออกซิเจนในระดับต่ำที่สุดที่จะเพียงพอรักษาระดับออกซิเจนในเลือด อย่างไรก็ตาม การได้รับออกซิเจนปริมาณมากเกินไปสร้างความเสียหายให้แก่เซลล์ในปอดได้ โดยระดับของออกซิเจนในเลือดควรไม่เกิน 110 มิลลิเมตรปรอท

ออกซิเจนบำบัด เหมาะกับใครบ้าง
ออกซิเจนบำบัด (Oxygen Therapy) เป็นวิธีที่นำมาใช้เพิ่มปริมาณออกซิเจนในปอดและกระแสเลือด สำหรับผู้ป่วยที่พบสัญญาณของเซลล์ในร่างกายบ่งชี้ว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือภาวะขาดออกซิเจนที่วัดได้จาก เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด วัดอัตราการเต้นหัวใจ และ ปริมาณออกซิเจนในร่างกาย หรือ วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) น้อยกว่าค่าปกติ โดยผู้ป่วยที่มีระดับของออกซิเจนในเลือดต่ำเหล่านี้ อาจมีสาเหตุจากโรคปอด หรือโรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และกลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ปัจจุบันผู้ป่วยสามารถใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนบำบัดได้ทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน ยิ่งช่วงนี้ภาวะฝุ่น PM2.5 การวัดออกซิเจนมีผลอย่างมาก เพื่อเฝ้าดูอาการก่อนพบแพทย์

ภาวะพร่องออกซิเจนมีกี่ชนิด ?ภาวะพร่องออกซิเจน หมายถึง ภาวะที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เป็นสาเหตุให้การทำงานของร่างกายและสมองบกพร่อง ภาวะพร่องออกซิเจนมี 4 ชนิด ได้แก่
ภาวะพร่องออกซิเจนจากการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย (Hypoxic Hypoxia) พบได้บ่อยที่สุดจากการขึ้นที่สูง ความกดบรรยากาศลดลง การกลั้นหายใจ โรคหอบหืด ปอดบวม มีลมในช่องปอด เป็นต้น
ภาวะพร่องออกซิเจนจากเลือด (Hypemic Hypoxia) เกิดจากความบกพร่องในการนำพาออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เช่น เช่น เม็ดเลือดแดงลดลงจากโรคโลหิตจาง การเสียเลือด ภาวะผิดปกติของฮีโมโกลบิน เป็นต้น
ภาวะพร่องออกซิเจนจากการติดขัดในการไหลเวียนของกระแสเลือด (Stagnant Hypoxia) เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการไหลเวียนของกระแสโลหิต เช่น การลดลงของปริมาณแรงดันเลือดจากหัวใจ เนื่องจากโรคหัวใจล้มเหลว เป็นต้น
ภาวะพร่องออกซิเจนจากภาวะเป็นพิษของเซลล์ (Histotoxic Hypoxia) เกิดจากร่างกายได้รับสารพิษ เช่น แอลกอฮอล์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ สารไซยาไนด์ เป็นต้น

ภาวะพร่องออกซิเจนมีอาการอย่างไร ?เนื่องจากมักจะเกิดอาการขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่รู้สึกตัว (Insidious onset) จนหมดสติไปในที่สุด โดยทั่วไปแล้ว หากมีภาวะพร่องออกซิเจนจะมีอาการดังต่อไปนี้
ผิวหนังซีดหรือเขียวคล้ำ
ไอ คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
ซึม เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
เหงื่อออกมาก ร้อน ๆ หนาว ๆ วูบวาบ มือเท้าชา
หายใจถี่ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด
กระสับกระส่าย กระวนกระวาย
ตาพร่ามัว สับสน มึนงง
การรู้ตัวลดลง ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก
หากปล่อยไว้อาจเกิดอาการเพ้อ ชัก หมดสติ
Cr.Cr.โรงพยาบาลกรุงเทพ,พาธแล็บ,พบแพทย์,Kapook,กรุงเทพธุรกิจ
Commentaires